Open, High, Low, Close "OHLC"

Open, High, Low, Close "OHLC"

Photo by Arthur A / Unsplash
OHLC = Open, High, Low, Close ของ “กรอบเวลา” หนึ่ง ๆ (1 นาที, 1 ชม., 1 วัน ฯลฯ)
ใช้สร้างทั้ง Bar Chart และ Candlestick ซึ่ง “แท่งเทียน” อ่านจิตวิทยาตลาดได้ง่ายกว่าเพราะเห็นสัดส่วน ตัวแท่ง (Body) และ ไส้เทียน (Wick/Shadow) ชัดเจน

ความหมายและการตีความ


Open (ราคาเปิด)

  • คือ “ระดับสมดุลแรก” ของแรงซื้อ–ขายในกรอบเวลา
  • ในตลาดที่มีช่วงปิดเปิด (หุ้น/ฟิวเจอร์ส) Open มักได้รับอิทธิพลจากข่าวนอกเวลาและคำสั่งค้างคืน → เกิด Gap ได้
  • ในตลาด 24/7 (เช่น คริปโต) “ราคาเปิดของแท่ง” คือราคาที่ระบบตัดรอบเวลา ไม่ใช่จุดเปิดทำการของตลาด

สัญญาณเชิงตีความ

  • เปิดใกล้ Low ของแท่ง แต่ปิดสูงมาก → แรงซื้อไหลเข้าชัด (buyers in control)
  • เปิดสูงแล้วไหลลง ปิดต่ำมาก → แรงขายกดตลาด (sellers in control)
  • เปิดกระโดดเหนือ/ใต้ปิดก่อนหน้า (Gap Up/Down) → จิตวิทยาหมู่เปลี่ยนฉับพลัน ต้องดูว่ายืนเหนือ/ใต้โซนสำคัญได้ไหม

High (ราคาสูงสุด)

  • ระดับที่แรงซื้อ “ดันได้ไกลที่สุด” ในแท่ง
  • ถ้า High โผล่เหนือแนวต้าน/ยอดเดิม แต่กลับลงมาปิดต่ำ (เกิดไส้บนยาว) → มักตีความเป็น ขายทำกำไร / ไล่หยุดขาดทุน (stop run) แล้วแรงซื้ออ่อนลง

เช็คพฤติกรรม

  • ทำ High ใหม่พร้อม Body ใหญ่และปิดใกล้ High → แนวโน้มขึ้นแข็งแรง
  • ทำ High ใหม่แต่ไส้บนยาว ปิดกลาง/ต่ำ → ระวัง False Break / Bull Trap

Low (ราคาต่ำสุด)

  • ระดับที่แรงขาย “กดได้ลึกที่สุด”
  • ถ้าแทงทะลุ Low เดิมแล้วดีดกลับ ปิดสูง (ไส้ล่างยาว) → บอกการ “รับแรงขาย/ดูดสภาพคล่อง” ที่ Low (liquidity sweep)

เช็คพฤติกรรม

  • ทำ Low ใหม่แต่ปิดใกล้ Low ด้วย Body ใหญ่สีแดง → แนวโน้มลงแข็งแรง
  • ทำ Low ใหม่แต่มีไส้ล่างยาว ปิดกลาง/สูง → สัญญาณ Rejection ของขาย

Close (ราคาปิด) — “ตัวชี้นำหลัก”

  • ใช้เป็นฐานคำนวณอินดิเคเตอร์จำนวนมาก (MA/EMA/RSI/MACD ฯลฯ)
  • ในไทม์เฟรมสูง (วัน/สัปดาห์/เดือน) Close ใกล้โซนสำคัญ (เส้นแนวโน้ม, S/R, EMA) มีนัยมาก
  • “ปิดเหนือ/ใต้ โซนสำคัญ” มักถูกตีความว่า ยืนยัน/ปฏิเสธ แนวโน้ม

ตัวอย่างการอ่าน

  • ปิดใกล้ High ของแท่ง และ Body ใหญ่ → โมเมนตัมซื้อแข็ง
  • ปิดใกล้ Low ของแท่ง และ Body ใหญ่ → โมเมนตัมขายแข็ง
  • ปิดกลางแท่ง ไส้ยาวทั้งสองข้าง → แรงยื้อ/ลังเล (indecision)

การใช้ในกราฟ


Bar Chart (แท่ง OHLC)

  • เส้นแนวตั้ง = High ↔ Low
  • ขีดสั้นซ้าย = Open, ขีดสั้นขวา = Close
  • อ่านรายละเอียดได้ครบ แต่ภาพรวม “แรง” อาจไม่เด่นเท่าแท่งเทียน

Candlestick (แท่งเทียน)

  • Body = Open ↔ Close (ปกติสีเขียวเมื่อปิด > เปิด, สีแดงเมื่อปิด < เปิด)
  • Wick = High ↔ Low
  • เห็น “อารมณ์และแรง” ชัด: Body ใหญ่ = แรงข้างชนะชัด, Wick ยาว = มีแรงสวนในระหว่างแท่ง

การอ่านแบบ “มีบริบท” (สำคัญกว่าดูแท่งเดียว)

  1. แนวโน้มเดิม (Trend Context): แท่งแรงตามเทรนด์ (body ใหญ่ ปิดใกล้ปลายทางเทรนด์) → น่าเชื่อถือกว่าแท่งสวนเทรนด์
  2. โซน S/R: Rejection ที่โซนสำคัญ (High/Low เดิม, เส้นค่าเฉลี่ย, เส้นแนวโน้ม) มีน้ำหนักมากกว่าในที่โล่ง
  3. โครงสร้างหลายแท่ง:
    • Higher High & Higher Low ต่อเนื่อง → ภาวะขาขึ้น
    • Lower High & Lower Low ต่อเนื่อง → ภาวะขาลง
  4. Volatility Regime:
    • ช่วง Range หด (Inside Bars, Small Bodies) → สะสมพลัง
    • Range ขยาย ทะลุกรอบ → เริ่มเทรนด์/เร่งโมเมนตัม

รูปแบบยอดนิยมจาก OHLC

  • Single-candle:
    • Marubozu (ไม่มีไส้/ไส้น้อย) → แรงชัด
    • Doji → ลังเล, รอคอนเฟิร์ม
    • Hammer / Inverted Hammer → สัญญาณกลับตัวถ้าเกิดในจุดที่เหมาะ (เช่นปลายขาลง/ปลายขาขึ้น)
  • Multi-candle:
    • Engulfing (แท่งหลังกลืนแท่งก่อนหน้า)
    • Morning/Evening Star
    • Inside/Outside Bar (บอกการบีบ/ปล่อยพลัง)
ทุกรูปแบบให้ “เพิ่มน้ำหนัก” เมื่อเกิดตรงโซนสำคัญ + สอดคล้องกับโครงสร้างราคา/วอลุ่ม

ข้อควรระวัง/พลาดบ่อย

  1. ดูแท่งเดียวแล้วสรุปเทรนด์ → ต้องดูบริบท (เทรนด์, S/R, โครงสร้างหลายแท่ง)
  2. ลืมดูตำแหน่ง Close ต่อ S/R → ปิดเหนือ/ใต้เส้นสำคัญสำคัญกว่าการ “แตะแล้วเด้ง” เฉย ๆ
  3. ไส้ยาว = สัญญาณกลับตัวเสมอ? → ไม่เสมอ ต้องดูว่าตลาด “ยืน” เหนือ/ใต้ไส้นั้นในแท่งถัด ๆ ไปได้ไหม
  4. ไม่สนใจช่องว่างเวลา/ข่าว (Gap/Session) → โดยเฉพาะหุ้น/ฟิวเจอร์ส Open อาจเพี้ยนจากแรงนอกเวลา
  5. ใช้กฏตายตัวกับทุกสินทรัพย์ → แต่ละตลาดมีโหมดความผันผวนต่างกัน ต้องจูนเกณฑ์

เช็กลิสต์สั้น ๆ ก่อนตัดสินใจจากแท่งเทียน

  1. เทรนด์กรอบใหญ่เป็นอะไร? (ขึ้น/ลง/แกว่ง)
  2. แท่งปัจจุบันสัมพันธ์กับ S/R อย่างไร? (ปิดเหนือ/ใต้?)
  3. Body/Wick บอกแรงอะไร? (ชนะชัด, ลังเล, ปฏิเสธราคา)
  4. โครงสร้างสูง–ต่ำเปลี่ยนไหม? (HH/HL หรือ LH/LL)
  5. แท่งถัดไป “ยืนยัน” หรือ “ปฏิเสธ” สัญญาณเดิม?

สรุป


นี่คือสรุปแบบครบและกระชับ:


OHLC (Open, High, Low, Close) คืออะไร?

  • Open = ราคาเริ่มต้นของแท่ง
  • High = ราคาสูงสุดในช่วงนั้น
  • Low = ราคาต่ำสุดในช่วงนั้น
  • Close = ราคาปิดท้ายของแท่ง

ใช้ทำอะไร?

  • สร้างกราฟ Bar Chart และ Candlestick
  • เป็นพื้นฐานคำนวณอินดิเคเตอร์ เช่น MA, RSI, ATR
  • ใช้หาแนวโน้ม, โซนรับ-ต้าน, รูปแบบแท่งเทียน

การตีความพื้นฐาน

  • ปิด > เปิด → แท่งเขียว (แรงซื้อมากกว่า)
  • ปิด < เปิด → แท่งแดง (แรงขายมากกว่า)
  • ไส้เทียนยาว → มีแรงสวนในช่วงนั้น
  • Body ใหญ่ → โมเมนตัมชัดเจน
  • Body เล็ก/Doji → ตลาดลังเล

สูตรที่ควรรู้

  • Range = High – Low
  • Body = |Close – Open|
  • Upper Wick = High – max(Open, Close)
  • Lower Wick = min(Open, Close) – Low

การใช้จริง

  1. ดู เทรนด์กรอบใหญ่ → หาโซนสำคัญ
  2. วิเคราะห์ Body/Wick → อ่านแรงและจิตวิทยา
  3. ใช้ร่วมกับรูปแบบเทียน + อินดิเคเตอร์
  4. รอแท่งถัดไป ยืนยันสัญญาณ ก่อนเข้าเทรด

ข้อควรระวัง

  • อย่าดูแท่งเดียว ต้องดูบริบท (เทรนด์ + S/R)
  • ไส้ยาวไม่เท่ากับกลับตัวเสมอ ต้องดูการยืนราคา
  • ปรับเกณฑ์ให้เหมาะกับตลาดและไทม์เฟรม