เทรดทำซ้ำ เทรดทำซ้ำ นี่คืองาน Daily Routine
📌 สรุปกลยุทธ์การเทรด (Trading Strategies)
1. ตาม ระยะเวลา (Timeframe-Based)
- Scalping → เก็บกำไรสั้น ๆ หลายครั้งในไม่กี่นาที
- Day Trading → เปิด–ปิดภายในวันเดียว ไม่ถือข้ามคืน
- Swing Trading → เล่นรอบกลาง ๆ จับ swing 2–5 วันถึง 2–3 สัปดาห์
- Position Trading → จับ trend ใหญ่ ถือยาวเป็นเดือน–ปี
2. ตาม ทิศทาง/พฤติกรรมราคา (Price Behavior)
- Trend Following → เทรดไปตามแนวโน้มหลัก (ขาขึ้นซื้อ, ขาลงขาย)
- Momentum Trading → เกาะกระแสแรงซื้อ–แรงขาย, เล่นตามโมเมนตัม
- Reversal Trading → หาจุดกลับตัวของราคา (Top/Bottom)
- Breakout Trading → รอราคาทะลุแนวรับ–แนวต้านสำคัญแล้วเข้าตาม
- Range / Mean Reversion → ซื้อใกล้แนวรับ, ขายใกล้แนวต้าน
3. ตาม เครื่องมือที่ใช้ (Method-Based)
- Price Action Trading → Candlestick, Support–Resistance, Trendline
- Indicator-Based → MA, RSI, MACD, Bollinger Bands, Ichimoku
- Volume / Order Flow Trading → Volume Profile, Tape Reading, Market Depth
4. ตาม ปัจจัยภายนอก (Event-Based)
- News Trading → เทรดตามข่าวแรง (NFP, FOMC, Earnings)
- Earnings / Fundamental Trading → ใช้งบการเงิน, ดอกเบี้ย, เศรษฐกิจ
- Arbitrage / Statistical Arbitrage → หาช่องว่างราคาหรือ correlation
5. ตาม ระบบการตัดสินใจ (System Style)
- Discretionary → ใช้ประสบการณ์ ตัดสินใจตามสถานการณ์
- Systematic / Algorithmic → ใช้กฎตายตัว, Algo, Robot
- Hybrid → ผสมกันระหว่างระบบอัตโนมัติ + การวิเคราะห์ของคน
🎯 สรุปแกนหลักของกลยุทธ์
- Scalping / Day / Swing / Position → เลือกจาก “เวลา” ที่จะถือครอง
- Trend / Momentum / Reversal / Breakout / Range → เลือกจาก “พฤติกรรมราคา”
- Price Action / Indicator / Volume → เลือกจาก “วิธีวิเคราะห์”
- News / Fundamental / Arbitrage → เลือกจาก “เหตุการณ์/ข้อมูลภายนอก”
- Discretionary / Systematic → เลือกจาก “วิธีคิดและการจัดการระบบ”
👉 จะเห็นว่า “กลยุทธ์การเทรด” ไม่ได้มีแบบเดียว แต่เป็น โครงสร้างผสม ที่นักเทรดเลือกใช้ตาม
- สถานะตลาด (Trend / Sideway / Volatile)
- บุคลิกตัวเอง (ชอบเร็วหรือยาว)
- เครื่องมือที่ถนัด